*Metro Z* (2025) เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญแนวซอมบี้แอ็คชั่นที่กำลังจะเข้าฉาย นำแสดงโดย **เจสัน สเตธัม** กำกับโดย **กาย ริทชี่** ภาพยนตร์เรื่องนี้ผสมผสานองค์ประกอบของแอ็คชั่น สยองขวัญ และความระทึกขวัญในโลกหลังหายนะที่ไวรัสซอมบี้ระบาด ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องในเมืองใหญ่ที่ถูกทำลายล้าง ซึ่งมนุษย์ที่เหลือรอดต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดท่ามกลางการระบาดครั้งใหญ่
**สปอยล์เนื้อเรื่อง**
ภาพยนตร์เรื่องนี้มุ่งเน้นไปที่ **แจ็ค โรว์** (รับบทโดย **เจสัน สเตธัม**) อดีตทหารผ่านศึกที่ผันตัวมาเป็นทหารรับจ้าง ซึ่งถูกจ้างให้คุ้มกันกลุ่มผู้รอดชีวิตไปยังโซนปลอดภัยที่ลือกันว่าอยู่ใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยซอมบี้ กลุ่มผู้รอดชีวิตประกอบด้วย **ดร. ลีน่า วูดส์** (นักวิทยาศาสตร์ที่รับบทโดย **จีน่า โรดริเกซ**) ผู้อาจถือครองกุญแจสำคัญในการพัฒนาวิธีรักษาไวรัส และ **มาร์คัส** (รับบทโดย **อิดริส เอลบา**) อดีตนักสืบผู้ล้างแค้นการระบาดของซอมบี้
เมื่อพวกเขาเดินทางเข้าไปในเมืองลึกขึ้น กลุ่มคนเหล่านี้ก็ค้นพบว่าการติดเชื้อแพร่กระจายเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้เมืองนี้กลายเป็นดินแดนฝันร้ายที่เต็มไปด้วยไม่เพียงแต่ซอมบี้เท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มมนุษย์ที่โหดร้ายที่ต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอีกด้วย ความเชี่ยวชาญด้านการทหารของแจ็คได้รับการทดสอบเมื่อกลุ่มคนเหล่านี้ต้องเผชิญหน้ากับฝูงซอมบี้ รวมถึงซอมบี้ที่กลายพันธุ์และฉลาดขึ้นซึ่งดูเหมือนจะวิวัฒนาการขึ้น
ในจุดพลิกผันที่น่าตกใจ ดร.วูดส์เปิดเผยว่าเขตปลอดภัยที่พวกเขามุ่งหน้าไปนั้นแท้จริงแล้วเป็นการทดลองของรัฐบาลที่ผิดพลาด และ “วิธีรักษา” อาจไม่เป็นอย่างที่พวกเขาคาดหวัง ภาพยนตร์เรื่องนี้จบลงด้วยการตัดสินใจที่เลวร้าย แจ็คต้องตัดสินใจว่าจะค้นหาวิธีรักษาต่อไปหรือช่วยผู้รอดชีวิต นำไปสู่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่น่าสลดใจในใจกลางการระบาดของซอมบี้ เมื่อเครดิตขึ้น ก็ชัดเจนว่าการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดยังไม่สิ้นสุด
**งบประมาณและบ็อกซ์ออฟฟิศ**
ด้วยงบประมาณการผลิต 120 ล้านดอลลาร์** คาดว่า *Metro Z* จะทำรายได้ทั่วโลกประมาณ **400 ล้านดอลลาร์** ฉากแอ็กชั่นที่เข้มข้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ พลังดาราของเจสัน สเตธัม และความนิยมที่เพิ่มขึ้นของภาพยนตร์ซอมบี้ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ในบ็อกซ์ออฟฟิศได้ดี นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง การขายแบบดิจิทัล และภาคต่อที่อาจจะตามมา